ด้านนักฟิสิกส์ค่อนข้างมั่นใจว่าได้ค้นพบอนุภาคใหม่ที่น่าจะเป็นอนุภาคฮิกส์ ซึ่งค้นหามานาน โดยอนุภาคฮิกก์ส เป็นอนุภาคมูลฐานชนิดหนึ่งในทางฟิสิกส์อนุภาค ที่เกิดจากการคาดการณ์ทางทฤษฎีว่าน่าจะมีอยู่ภายในหลักการของแบบจำลองมาตรฐาน เป็นอนุภาคมูลฐานหนึ่งในสองชนิดที่ยังไม่สามารถสังเกตพบได้ในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์พยายามทำการทดลองเพื่อค้นหาการเกิดของอนุภาคนี้ เพื่อหาทางอธิบายว่าอนุภาคมูลฐานที่ไม่มีมวลสามารถประกอบกันขึ้นเป็นสสารที่มีมวลได้อย่างไร และเป็นอนุภาคตัวสุดท้ายที่รอการค้นพบในกรอบของทฤษฎีแบบจำลองพื้นฐาน (Standard Model)
ข่าวดีดังกล่าวได้รับการประกาศโดยศ.โจ อินแคนเดลา โฆษกประจำสถานีตรวจวัดอนุภาคซีเอ็มเอส ภายในการประชุมใหญ่ประจำปีของนักฟิสิกส์อนุภาคจากทั่วโลก ท่ามกลางเสียงปรบมืออย่างกึกก้องจากผู้เข้าร่วมประชุม ด้านศาสตราจารย์ปีเตอร์ ฮิกก์ส ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มแนวความคิดเกี่ยวกับกลไกของอนุภาคฮิกก์สหรือสนามพลังฮิกก์ส ที่เกิดขึ้นในราวปี 1964 ต่างเช็ดน้ำตาด้วยความดีใจ หลังจากการแถลงข่าวเสร็จสิ้น เขากล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในความสำเร็จครั้งนี้ และถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในชั่วชีวิตของเขา
ด้านสตีเฟน ฮอว์กิง นักฟิสิกส์ชื่อดัง กล่าวว่า นี่ถือเป็นการค้นพบที่สำคัญ และปีเตอร์ ฮิกกส์ควรได้รับรางวัลโนเบล และกล่าวว่า การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ในทางฟิสิกส์มักจะมาจากการทดลองที่มักให้ผลที่เราคาดไม่ถึง
อนุภาคฮิกส์และสภาวะ ฮิกส์ โบซอน คือสภาวะที่ ปีเตอร์ ฮิกส์ นักฟิสิกส์ชาวสก็อตใช้อธิบายการกำเนิดจักรวาลหลังการเกิดบิ๊กแบง โดยอธิบายว่า ในชั่วระยะเวลา 1 ใน 1ล้านล้านส่วนของวินาทีหลังเกิดบิ๊กแบง ได้เกิดสภาวะที่เรียกกันในเวลาต่อมาว่าสภาวะ ฮิกส์โบซอน ขึ้น ภายใต้สภาวะดังกล่าวจะมีอนุภาคส่วนหนึ่งซึ่งต่อมาถูกเรียกว่าอนุภาคฮิกส์ถูก ดึงดูดเข้ารวมกับอนุภาคอีกส่วนหนึ่งทำให้มีมวลมากกว่า อนุภาคอีกส่วนที่ไม่มีคุณสมบัติเดียวกัน ความแตกต่างดังกล่าวนี้เองที่ก่อให้เกิดมวลขึ้นในสภาวะไร้น้ำหนัก และเป็นจุดกำเนิดจักรวาลในเวลาต่อมา
การค้นพบที่เพิ่งประกาศครั้งนี้นั้นเป็นผลจากการศึกษาของสถานีตรวจวัดซีเอ็มเอส และแอตลาสที่ตั้งประจำที่เครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ โดยผลสังเกตการชนกันของอนุภาคแต่ละครั้งนั้นเป็นอิสระต่อกันและต่างแยกกันวิเคราะห์ อีกทั้งยังไม่ได้รับอนุภาคให้แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันเพื่อป้องกันอคติในการศึกษาของนักวิจัยแต่ละทีมที่มุ่งหาสิ่งเดียวกันนี้
ข้อมูลที่ได้ระบุชัดว่าเป็นสัญญาณของอนุภาคใหม่ ในขอบเขตมวลที่ระดับพลังงาน 125.3 กิกะอิเล็กตรอนโวลต์ (GeV) หรือมีมวลหนักกว่าอนุภาคโปรตอนที่อยู่ในใจกลางของทุกอะตอมราว 133 เท่า โดยเมื่อรวมชุดข้อมูลสองชุด จะมีระดับทางสถิติที่ 5 ซิกมา หรือคิดเป็นความเป็นไปได้ 1 ใน 3.5 ล้านครั้งที่สัญญาณที่พบจะปรากฏ หากไม่เกิดอนุภาคฮิกก์ส
ผลการศึกษาที่เป็นเพียงข้อสรุปจากข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งตั้งอยู่บนฐานข้อมูลที่มีการรวบรวมในปี 2011 ส่วนข้อมูลปี 2012 นี้ยังอยู่ในขั้นตอนการวิเคราะห์ โดยผลงานการวิเคราะห์ที่เพิ่งนำเสนอไปนี้คาดว่าจะได้ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการประมาณปลายเดือน ก.ค. ส่วนภาพการศึกษาที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นนั้นจะปรากกขึ้นในปลายปีนี้หลังจากได้ผลการทดลองเพิ่มเติมจากเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซี
อย่างไรก็ดี เซิร์นยังไม่ได้สรุปว่าอนุภาคที่เห็นนั้นคือฮิกกส์ หรือเป็นอนุภาคอื่น แต่อธิบายว่าแบบจำลองพื้นฐาน ได้อธิบายว่าอนุภาคพื้นฐานทั้งที่อยู่ในตัวเราและทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็นเป็นตัวตนในเอกภพนั้นเกิดขึ้นมาอย่างไร รวมถึงแรงที่กระทำต่ออนุภาคเหล่านั้น ถึงอย่างนั้นสสารที่เราก็มีไม่เกิน 4% ของทั้งหมดในเอกภพ และอนุภาคฮิกกส์ ในรูปแบบที่แปลกประหลาดกว่านี้จะเป็นสะพานเชื่อมสู่ความเข้าใจในสสารที่เหลืออีก 96%
http://www.youtube.com/watch?v=OCbSKcLIXl0&feature=player_embedded
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น