วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556

พายุฤดูร้อน

สาเหตุการเกิดพายุฤดูร้อน
พายุฤดูร้อนก่อตัวจากเมฆคิวมูลัสก่อน เมื่อเมฆคิวมูลัสขยายตัวขึ้นและมีกระแสลมแนวตั้งแรงขึ้นก็จะขยายตัวสูงใหญ่เป็นเมฆคิวมูโลนิมบัส ซึ่งเป็นเมฆพายุฟ้าคะนอง การเกิดเมฆพายุ
ฟ้าคะนองในบรรยากาศต้องมีเงื่อนไข คือ
- อากาศร้อนและมีความชื้นมาก
- อากาศไม่มีเสถียรภาพ(ไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้ คือ อากาศมีการลอยตัวขึ้น)
- มีปัจจัยที่ก่อให้เกิดการลอยตัวขึ้นของอากาศ เช่น อุณหภูมิสูงที่พื้นดิน มวลอากาศเคลื่อนตัวสูงขึ้นเมื่อพัดผ่านภูเขาหรือมีการปะทะกันของมวลอากาศที่แตกต่างกัน
ในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทยตอนบนจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุม
ทำให้มีอุณหภูมิสูงและได้รับความชื้นจากลมตะวันออกเฉียงใต้ หรือลมใต้ซึ่งพัดจากอ่าวไทย ขณะเดียวกันถ้ามีบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนซึ่งเป็นมวลอากาศเย็น หรือบางครั้งมีคลื่น
กระแสลมตะวันตกจากประเทศพม่าเคลื่อนมาเสริม จะก่อให้เกิดการปะทะกันของมวลอากาศเย็นจาก
ประเทศจีนและมวลอากาศร้อนชื้นที่ปกคลุมประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เกิดการยกตัวของอากาศขึ้น
อย่างรุนแรงและรวดเร็ว ก่อให้เกิดพายุฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง หรืออาจมีลูกเห็บตกมาด้้วย ประเทศไทยตอนบนจึงมีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อนได้มาก ส่วนภาคใต้ก็มีโอกาสเกิดได้แต่น้อย
ลักษณะอากาศก่อนเกิดพายุฤดูร้อน
- อากาศร้อนมาหลายวัน และในวันที่จะเกิดพายุฤดูร้อนอากาศจะร้อนอบอ้าวมากขึ้น
- ลมสงบ
- ท้องฟ้ามัว ทัศนวิสัยไม่ดี
- มีเมฆทวีมากบึ้นในท้องฟ้า ลักษณะที่ฝนจะตกมีมากขึ้น
- ลมเริ่มพัดแรงขึ้นในทิศทางใดทางหนึ่ง มีลักษณะเป็นลมกระโชกเป็นครั้งคราว
- เมฆก่อตัวหนาแน่นอย่างรวดเร็ว และมีฟ้าแลบ และมีฟ้าคะนองในระยะไกล
ความรุนแรงและผลกระทบที่มีต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ความรุนแรงของพายุเกิดจากความแตกต่างกันของอุณหภูมิของอากาศร้อนและอากาศเย็นที่ปะทะกันความรุนแรงนี้จะปรากฎออกมาในลักษณะของพายุลมแรง ฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า และลูกเห็บตก ผลกระทบมีดังนี้
- แผ่นป้ายโฆษณาและต้นไม้ยักโค่นล้ม
- บ้านเรือนที่ไม่แข็งแรงพังทลาย กระเบื้องหลังคาหลุดปลิวเป็นอันตรายต่อผู้คน
-
ฝนตกหนักในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 1 ชั่วโมง
- มีลูกเห็บตกได้ในกรณีที่พายุมีกำลังแรงๆ
- ขณะเกิดจะมีฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ซึ่งอาจทำให้คนและสัตว์เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
แนวทางป้องกัน

พายุฤดูร้อนเป็นภัยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นหรือควบคุมไม่ให้รุนแรงได้ แต่ก็พอมีวิธีการที่จะหลีกเลี่ยงและบรรเทาความเสียหายหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้
- ติดตามข่าว และการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ที่อาจเกิดพายุฤดูร้อน
- ขณะเกิดพายุ หากอยู่ในอาคารบ้านเรือนให้ปิดประตูหน้าต่างให้เรียบร้อย
- หากอยู่กลางแจ้งให้รีบหลบเข้าในอาคารหรือที่กำบังที่มั่นคง แข็งแรง เพื่อไม่ให้กิ่งไม้ ต้นไม้หัก หรือเศษวัสดุ สิ่งของปลิวใส่เป็นอันตราย และห้ามอยู่ใต้ต้นไม้สูง หรือใต้เสาไฟฟ้า หรือมีโลหะที่มีส่วนผสมของทองแดงซึ่งเป็นสื่อล่อฟ้าอยู่กับตัว เพราะอาจถูกฟ้าผ่าได้
- สำหรับเกษตรกร ชาวสวน ควรหาไม้ค้ำยันกิ่งต้นไม้ โดยเฉพาะผลไม้ที่กำลังติดผลอ่อน จะช่วยลดความเสียหายลงไ้ด้
- สำหรับเขตเมืองที่มักมีการติดป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ ควรระมัดระวัง เรื่องความแข็งแรง
คงทนของป้ายดังกล่าว เพราะพายุฤดูร้อนจะเกิดขึ้นได้เป็นประจำทุกปี ในช่วงระหว่างกลางเดืิือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนพฤษภาคม

การเกิดลูกเห็บ
ลูกเห็บ เกิดขึ้นภายในเมฆพายุฟ้าคะนองเป็นเมฆก่อตัวแนวตั้งขนาดใหญ่ เมฆคิวมูโลนิมบัส เกิดขึ้น
เมื่ออากาศชื้นมีการยกตัวขึ้น อุณหภูมิอากาศเย็นลงตามความสูงจนกระทั้งอุณหภูมิอากาศเท่ากับอุณหภูมิจุดน้ำค้าง ไอน้ำจะอิ่มตัวแล้วกลั่นตัวจนเป็นหยดน้ำ อากาศยังคงมีการลอยตัวสูงขึ้น อุณหภูมิอากาศยังคงเย็นต่อไปอีกจนกระทั่งอุณภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง และเย็นต่อไปอีกจนกระทั่งหยดน้ำในเมฆกลายเป็นน้ำแข็งเม็ดน้ำแข็งอาจตกลงมาเนื่องจากน้ำหนัก แต่อากาศข้างล่างที่ยังคงมีการลอยตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ก้อนน้ำแข็งเล็กๆ กลับลอยขึ้นไปอีกรวมกับก้อนน้ำแข็งที่อยู่ภายในเมฆเกิดเป็นก้อนน้ำแข็งใหญ่ขึ้นในลักษณะการพอก แล้วตกลงมาเนื่องจากน้ำหนักและกลับลอยขึ้นไปอีก เกิดการพอกทำให้เม็ดน้ำแข็งนี้ใหญ่ขึ้นอีกเป็นลักษณะเช่นนี้จนกระทั่งอากาศข้างล่างที่ลอยขึ้นนั้นไม่สามารถรับน้ำหนักของก้อนแข็งได้ ก้อนน้ำแข็งจึงตกลงสู่พื้นดินเป็น "ลูกเห็บ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น